รีโนเวทบ้านเพื่อเชื่อมโยงคน 3 วัยไว้ด้วยกัน

คงไม่ดีแน่ หากเราจะปล่อยให้ห้องน้ำในบ้านของเราอยู่ในสภาพที่ไม่น่าใช้งาน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุความสกปรกที่หมักหมมมาแสนนาน สุขภัณฑ์แบบเก่าที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้งานจริง หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งสิ่งที่ควรจะทำก็คือการรีโนเวท เพื่อให้ห้องน้ำในบ้านของเรากลับมาสวยงามและน่าใช้งานอีกครั้ง

ซึ่งในการรีโนเวทห้องน้ำนั้น เราก็จะต้องเตรียมตัววางแผนเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงระยะเวลาของขั้นตอนการรีโนเวท คราวนี้ เราก็จะมีดูกันว่า มีสิ่งในบ้างที่ควรคำนึงถึง ก่อนที่จะทำการรีโนเวทห้องน้ำ ตามมาดูกันเลย

1.  รูปแบบสไตล์การตกแต่ง

การตกแต่งห้องน้ำนั้นมีหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำแบบโมเดิร์น ห้องน้ำแนวปูนเปลือย ห้องน้ำสไตล์วินเทจ ฯลฯ ซึ่งก่อนที่จะทำการรีโนเวทห้องน้ำ เราก็ควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเราชอบแบบไหน เนื่องจากห้องน้ำเป็นห้องที่เราใช้งานในทุกๆ วัน คงไม่ดีแน่หากเราต้องหงุดหงิดกับห้องน้ำที่ตกแต่งได้ขัดหูขัดตาเราเอง


2. สมาชิกในครอบครัว

หากในครอบครัวของคุณมีสมาชิกเป็นผู้สูงวัย สิ่งที่ควรทำก็คือติดตั้งฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับสำหรับผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นสุขภัณฑ์ที่มีความกว้างให้ผู้สูงอายุนั่งได้อย่างสบาย ราวจับที่ช่วยพยุงตัวเวลาใช้ห้องน้ำ ที่สำคัญก็คือพื้น ที่ควรจะเปลี่ยนไปใช้แบบกันลื่น เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของทุกคนในครอบครัว


3. ขนาด

ห้องน้ำแบบเก่าอาจจะมีพื้นที่ที่กว้างขวาง แต่มีการจัดวางองค์ประกอบที่ไม่ลงตัว หรือใช้งานพื้นที่ได้ไม่คุ้มค่านัก การลดทอนพื้นที่ใช้สอยในห้องน้ำให้แคบลง แต่เปลี่ยนการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ให้ลงตัวกว่าเดิม จะช่วยให้เราใช้งานห้องน้ำได้สะดวกขึ้นถึงแม้พื้นที่จะน้อยลงก็ได้


4. ที่เก็บของ

ที่เก็บของในห้องน้ำอาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่แท้จริงแล้วก็นับเป็นส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ หากห้องน้ำเดิมมีที่เก็บของใช้สำหรับห้องน้ำไม่เพียงพอ ก็ควรทำการติดตั้งเสริม อาจจะเป็นชั้นวางติดผนัง เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มีตู้เก็บของ หรือกระจกที่เปิดเป็นตู้ได้ นอกจากจะช่วยให้เราเก็บของใช้ต่างๆ ได้อย่างเรียบร้อยแล้ว ยังมีพื้นที่เพิ่มสำหรับวางของตกแต่งอีกด้วย


5. ตำแหน่งสุขภัณฑ์

การจัดวางสุขภัณฑ์หรือชักโครกนั้น ควรจะวางให้พ้นสายตาเมื่อเปิดประตูห้องน้ำ เหตุผลนั้นเป็นเพราะว่า ในบางครั้ง ประตูห้องน้ำในบ้านอาจจะถูกเปิดทิ้งไว้ และคงเป็นสิ่งที่รกสายตาและให้ความรู้สึกสกปรกอย่างยิ่งเมื่อเราหรือแขกเดินผ่านไปมาและมองเห็นชักโครกตั้งตระหง่านอยู่แบบนั้น


6. อ่างล้างหน้า

ความสูงของอ่างล้างหน้าควรจะอยู่ที่ 32 ถึง 34 นิ้ว จากพื้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรพิจารณาจากค่าเฉลี่ยความสูงของสมาชิกแต่ละคนในบ้านด้วย จะช่วยให้เราใช้งานได้ดีขึ้น ล้างมือแปรงฟันได้อย่างสะดวกสบาย ไม่มีติดขัด


7. พื้นห้องน้ำ

พื้นห้องน้ำเก่าที่เต็มไปด้วยคราบสกปรกที่ไม่สามารถขัดออกได้ ควรเปลี่ยนใหม่เสียให้เรียบร้อย ทั้งนี้ก็ควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติความแข็งแรง มีอัตราการซึมน้ำต่ำ พื้นกระเบื้องเซรามิก พื้นกระเบื้องหิน พื้นกระเบื้องโมเสค พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นต้น


8. ผนังห้องน้ำ

ผนังห้องน้ำจะบ่งบอกถึงภาพรวมของรูปแบบสไตล์ห้องน้ำในบ้านคุณ หากผนังห้องน้ำมีสภาพเก่าๆ ดูหม่นหมองไม่สวยงามก็ควรเปลี่ยนเสีย ซึ่งอาจจะเลือกใช้วัสดุประเภทเดียวกันกับพื้นห้องน้ำ เพื่อให้เกิดความรู้สึกกลมกลืน แลดูไม่ขัดเขินจนเกินไป


9. ฝ้าเพดาน

นอกจากพื้นและผนังแล้ว ฝ้าเพดานยังเป็นอีกส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามหากต้องการรีโนเวทห้องน้ำ ซึ่งควรจะเลือกฝ้าที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติป้องกันความชื้นหรือป้องกันการเกิดคราบรา เนื่องจากห้องน้ำเป็นห้องที่ขึ้นชื่อว่ามีความชื้นอยู่แทบจะตลอดเวลา


10. การถ่ายเทอากาศ

รู้หรือไม่ว่าการถ่ายเทอากาศในห้องน้ำนั้นส่งผลต่อสุขอนามัยโดยตรงของสมาชิกในครอบครัว หากไม่มีการระบายอากาศในห้องน้ำที่ดี จะส่งผลให้เชื้อโรคต่างๆ หมักหมมได้และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากห้องน้ำเก่าไม่มีพัดลมระบายอากาศหรือหน้าต่าง ควรจะติดเพิ่มให้เพียงพอ


11. แสงสว่าง

แสงสว่างนับเป็นอีกส่วนสำคัญในห้องน้ำ เพราะห้องน้ำที่มืดทึบคงจะดูไม่สบายตาเป็นแน่ ดังนั้นจึงควรติดตั้งระบบไฟให้ความสะว่างที่เพียงพอ นอกจากนี้ การติดตั้งช่องรับแสง ก็ควรคำนึงถึงทิศทางของแสงภายนอกที่เข้าภายในห้องน้ำด้วย


12. ความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำอุ่น ควรจะมีการติดตั้งระบบสายดินหรือเครื่องตัดไฟรั่ว และจะต้องมีการติดตั้งที่ถูกต้องและรัดกุม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของสมาชิกในบ้าน


13. งบประมาณ

เนื่องจากทุกองค์ประกอบในห้องน้ำนั้นจะส่งผลต่องบประมาณทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นขนาดของห้องน้ำหรือการเลือกใช้วัสดุ จึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับงบประมาณที่เรามี โดยคำนวณราคาวัสดุต่างๆ เปรียบเทียบราคาและคุณภาพของแต่ละยี่ห้อให้ถี่ถ้วน มิเช่นนั้นอาจจะต้องมานั่งเสียใจกับเงินที่เสียไปโดยใช่เหตุ หรือที่เรียกกันว่า 'งบบานปลาย' นั่นเอง


14. ผู้รับเหมา

บางครั้งเราอาจไม่จำเป็นต้องจ้างผู้รับเหมาเพื่อการรีโนเวทห้องน้ำ แต่หากเราไม่มีเวลาดำเนินการด้วยตัวเอง การจ้างผู้รับเหมาให้มาช่วยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ทั้งนี้ก็ควรเลือกผู้รับเหมาที่มีความน่าเชื่อถือ อาจสังเกตได้จากผลงานเก่าที่ผู้รับเหมานั้นๆ เคยทำมาก่อน หรือหากไม่สามารถตรวจสอบได้ อย่างน้อยๆ ก็ควรตามเช็ครายละเอียดต่างๆ ในระหว่างขั้นตอนการรีโนเวทด้วยตัวเองไปพร้อมๆ กับผู้รับเหมา ไม่ว่าจะเป็น วัสดุที่ซื้อมา การติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำ ที่ควรจะให้เป็นไปตามแบบที่เราตกลงไว้มากที่สุด


15. ระยะเวลาในการดำเนินงาน

สิ่งสำคัญข้อสุดท้ายก็คือ ระยะเวลาในการรีโนเวท หลายคนอาจจะคิดว่าใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่บางครั้งการปรับปรุงห้องน้ำก็เสียเวลาโดยใช่เหตุไปมาก สาเหตุอาจมาจากการเปลี่ยนแบบกลางคันในระหว่างดำเนินการ อาจส่งผลให้ต้องเสียเงินให้กับผู้รับเหมามากขึ้น ดังนั้นจึงควรกำหนดวางแผนการการทำงานขั้นตอนต่างๆ ให้เสร็จตามกำหนดอย่างแน่นอน


        

ถึงแม้ห้องน้ำอาจจะเป็นเพียงห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งในบ้าน แต่ก็นับว่าเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดเนื่องจากเราทุกคนต้องใช้งานในทุกวัน หากเราจะทำการรีโนเวทห้องน้ำ จึงต้องคำนึงถึงการใช้งานจริงให้ถี่ถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาในภายหลังนั่นเองครับ