5 เทคนิคปรับบ้านเย็น ลดโลกร้อน สร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

อะไรคือสังคมคาร์บอนต่ำ? หากอธิบายให้เข้าใจง่าย อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆส่งผลในเรื่องของอากาศร้อนในบ้านเรา ซึ่งเป็นผลทางตรงและทางอ้อมจากการดำเนินธุรกิจ และการใช้ชีวิตประจำวันของเรา  แม้ว่าเรื่องการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำดูไกลตัวกับเจ้าของบ้าน แต่จริงๆแล้วใกล้ตัวกว่าที่คิด เพราะเป็นการช่วยลดโลกร้อนได้อีกทาง

5 เทคนิคปรับบ้านเย็น

การสร้างสังคมคาร์บอนต่ำคือ การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้น้อยที่สุด ตั้งแต่การหันมาใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากโซล่าเซลล์แทนการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติหรือน้ำมัน หรือผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดน้อยลงหรือเป็นศูนย์ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ตลอดจนการเลือกวัสดุก่อสร้างที่ได้รับการรับรองว่าไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เราเองในฐานะเจ้าของบ้าน ก็สามารถมีส่วนสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ และลดการใช้พลังงาน ลดโลกร้อนได้ด้วยวิธี 5 เทคนิคง่ายๆ เกี่ยวกับการจัดการภายในบ้าน

 

1.       ปรับทิศรับความเย็น

บ้านที่ช่วยประหยัดพลังงานโดยส่วนมากจะสร้างโดยหันไปทางทิศเหนือ หรือทิศใต้ เพราะเป็นทิศที่มีลมเย็นเข้ามาภายในบ้านทำให้เกิดอากาศถ่ายเทสะดวก ทำให้ไม่ต้องเปิดหรือลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยประหยัดการใช้พลังงานภายในบ้าน แต่หากบ้านจำเป็นจะต้องหันไปทางทิศตะวันตกหรือทิศตะวันออกก็สามารถใช้ม่านกันแสงแดดไม่ให้ความร้อนเข้ามาภายในตัวบ้านมากเกินไป เพื่อลดการทำงานหนักของเครื่องปรับอากาศได้

2.       ฝ้าดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

เป็นที่ทราบกันว่า ฝ้าคือเกราะกำบังของบ้าน ฉะนั้นจึงต้องคำนึงถึงคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับรูปแบบบ้าน และคุ้มค่าต่อการใช้งาน การเลือก แผ่นยิปซัมมาตรฐาน ตราช้าง ความหนา 9 มม. ซึ่งได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เพราะมีกระบวนการผลิต การใช้งาน ตลอดจนการกำจัดเศษซากที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย จนได้ค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ 3.43 จะช่วยสร้างสังคมคาร์บอนต่ำและลดโลกร้อนได้อีกแนวทางหนึ่ง และด้วยคุณสมบัติผิวเรียบสม่ำเสมอ ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา และสามารถเพิ่มตัวช่วยด้วยการติดตั้งฉนวนกันความร้อนเพื่อลดการใช้พลังงานได้อีกด้วยจึงเหมาะอย่างยิ่ง

3.       เลือกฝ้าสะท้อนความร้อน

เมื่อแสงอาทิตย์ส่งผ่านความร้อนมาจากด้านบนผ่านหลังคา ฝ้าเพดานจึงเป็นปราการด่านสองที่ต้องเจอกับแสงแดด และความร้อน ดังนั้นวิธีการลดความร้อนจึงทำได้โดยการติดตั้งฝ้าเพดานที่สะท้อนความร้อนบริเวณใต้แผ่นหลังคา ก็สามารถช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจากแสงแดดที่มาปะทะโดยตรง และความร้อนที่ทะลุสู่ตัวโถงหลังคาก็จะน้อยลง   ช่วยให้ลดการสะสมความร้อนภายในตัวห้องได้อีกทางหนึ่ง พูดง่ายคือเลือกใช้ แผ่นฮีทบล็อค ตราช้าง กันร้อน ที่สามารถป้องกันความร้อน โดยมีการบุแผ่นสะท้อนรังสีความร้อนหรืออลูมิเนียมฟอยด์ด้านหลังแผ่น ทำให้สามารถสะท้อนรังสีความร้อนได้ถึง 89% ช่วยลดความร้อนบริเวณฝ้าเพดานใต้หลังคา ห้องใต้ชั้นดาดฟ้า รวมถึงผนังด้านที่โดนแดดโดยตรงได้เป็นอย่างดี

 

4.       เปิดบ้านให้โปร่งโล่งสบาย

ยิ่งบ้านถ่ายเทอากาศได้ดีก็ช่วยลดความร้อนได้มากขึ้น  แนะนำให้ติดตั้งหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่ช่วยให้บ้านโปร่งโล่ง ลมพัดผ่านเข้ามาในบ้านสะดวก รวมทั้งยังมีแสงสว่างจากธรรมชาติได้เพียงพอ และถ้าหากติดตั้งได้เหมาะสมกับทิศที่ลมจะผ่าน และแสงจากภายนอก ก็จะทำให้บ้านได้รับแสงสว่างมากพอโดยไม่ต้องเปิดไฟ สามารถลดพลังงานไฟฟ้าได้ ช่วยลดโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง

5.       กางร่มให้บ้านด้วยร่มเงาของต้นไม้

การออกแบบภูมิทัศน์รอบตัวบ้าน หรือการปลูกต้นไม้ ทำสวน โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่จะช่วยป้องกันแสงแดดที่ส่องตรงลงมาที่บ้านได้ ทั้งยังสร้างความร่มรื่น และสดชื่นให้บ้าน และเมื่อต้นไม้ดูดซึมน้ำจากใต้ดิน และเกิดการคายน้ำระเหยออกทางปากใบ จะทำให้อากาศรอบ ๆ ต้นไม้เย็นลง ช่วยให้ภายในบริเวณบ้านมีความร่มรื่น และเย็นสบายอีกด้วย ทำให้ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศหรือเปิดน้อยลงจึงช่วยประหยัดการใช้พลังงานได้

 

ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ที่แนะนำไปข้างต้น นอกจากจะช่วยให้บ้านเย็นสบายขึ้นแล้ว คุณเองยังมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการเป็นผู้สนับสนุนการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ได้ง่าย ๆ เพียงเจาะลงเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตัวการสำคัญที่ทำให้โลกร้อนอีกด้วย