รู้จักยิปซัมตราช้าง

 

เกี่ยวกับยิปซัมตราช้าง

บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด หรือ “ยิปซัมตราช้าง” ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2525 ดำเนินธุรกิจหลักด้านผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัม และนวัตกรรมระบบฝ้าเพดานและระบบผนังยิปซัม โดยจำแนกผลิตภัณฑ์เป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่  แผ่นยิปซัม  แผ่นฝ้าเพดานทีบาร์  โครงคร่าว ปูนฉาบงานยิปซัม ระบบผนังยิปซัม และอุปกรณ์ตกแต่งสำหรับระบบฝ้าและผนังยิปซัม ในปี พ.ศ. 2564 ยิปซัมตราช้างปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่ม SCG (เอสซีจี) ผู้นำด้านนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างและเคมีภัณฑ์ ประเทศไทย และ กลุ่มบริษัทคนอฟ ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างชั้นนำระดับโลกที่เชี่ยวชาญในด้านการผลิต และออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับงานตกแต่งภายใน ระบบฉนวนอาคาร และระบบฝ้าเพดาน โดยกลุ่มบริษัทคนอฟในปัจจุบัน  มีการดำเนินงานมากกว่า 90 ประเทศ มีโรงงานผลิตมากกว่า 300 แห่ง บน 5 ทวีป พร้อมพนักงานมากกว่า 40,000 คน ทั่วโลก

ปัจจุบัน ยิปซัมตราช้างมีโรงงานทั้งหมด 3 แห่งและมีกำลังการผลิตแผ่นยิปซัมมากกว่า 100 ล้านตารางเมตรต่อปี สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงสามารถจัดจำหน่ายไปยังลูกค้าในต่างประเทศกว่า 28 ประเทศ โดยโรงงานตั้งอยู่นิคมอุตสาหกรรมเอสไอแอล จังหวัดสระบุรี จำนวน 2 แห่ง และนิคมอุตสาหกรรมฉลุง จังหวัดสงขลา จำนวน 1 แห่ง ในขณะที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและพนักงานที่ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การใช้งานอย่างเป็นระบบแบบครบวงจร ทั้งระบบฝ้าเพดาน และระบบผนังภายใน

วิสัยทัศน์และพันธกิจ

ยิปซัมตราช้าง มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัม และนวัตกรรมระบบฝ้าเพดานและระบบผนังยิปซัมในประเทศไทย ด้วยพันธกิจองค์กร ในหลากหลายมิติ ดังนี้

ต่อประเทศ            - ยกระดับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

ต่อสังคมชุมชน       - บริหารจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ต่อลูกค้า              - ใส่ใจ รับฟัง และให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก  

ต่อคู่ค้า                - ดำเนินธุรกิจด้วยจรรยาบรรณ

ต่อพนักงาน           - ดูแล เอาใจใส่พนักงานในองค์กร ทั้งเรื่องคุณภาพชีวิตและพัฒนาขีดความสามารถการทำงาน

คำมั่นสัญญา

การดำเนินธุรกิจยิปซัมตราช้างอยู่ภายใต้คำมั่นสัญญา “นวัตกรรมที่ปลอดภัยในทุกการอยู่อาศัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” เราทุ่มเทในการสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ระบบฝ้าเพดานและระบบผนังแบบครบวงจร รวมถึงสามารถส่งมอบนวัตกรรมสำหรับลูกค้าหลากหลายกลุ่มที่มีความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม 

ค่านิยมองค์กร

การดำเนินธุรกิจที่ดีจะต้องเป็นไปตามครรลองแห่งความถูกต้องและเป็นธรรม ดังนั้นยิปซัมตราช้างและพนักงานทุกระดับจึงยึดถือคุณค่าที่เรายึดมั่นและปฏิบัติเสมอมา 4 ข้อดังนี้

1. Menschlichkeit     คือ การยึดมั่นในความเสมอภาคเท่าเทียม และยอมรับในความแตกต่างของปัจเจกบุคคล

2. Partnership           คือ การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อเพื่อนร่วมงาน ทำงานเป็นทีมกับพนักงานทุกภาคส่วน

3. Commitment         คือ การยึดมั่นในการปฏิบัติงาน เพื่อนร่วมงานและสังคม สร้างสรรค์และขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้า

4. Entrepreneurship  คือ การเปิดรับสิ่งสร้างสรรค์ใหม่ หรือนวัตกรรมต่างๆด้วยความท้าทาย

 

เลือกยิปซัม ย้ำตราช้าง

ด้วยความแข็งแกร่งของคุณค่าในตราสินค้า เรามีความภาคภูมิใจนำเสนอจุดยืน “เลือกยิปซัม ย้ำตราช้าง” เพื่อสร้างความมั่นใจ และความไว้วางใจให้ลูกค้า เจ้าของบ้าน เจ้าของโครงการ สถาปนิก และช่างมืออาชีพ ในฐานะผู้ผลิตแผ่นยิปซัม และวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ไปจนถึงสร้างความพึงพอใจ ตอกย้ำจุดยืนในฐานะผู้นำผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัม และนวัตกรรมระบบฝ้าเพดานและระบบผนังยิปซัมในประเทศไทย

 

ความยั่งยืน

               ยิปซัมตราช้าง กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยนำนวัตกรรมและองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ ในขณะเดียวกันเราต้องการสร้างโมเมนตัมให้ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยในปี 2564 ยิปซัมตราช้าง ขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การประเมินอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ มาตรฐาน TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability)  โดยสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI) รวมถึงการประเมินมาตรฐานอาคารเขียว หรือ LEED (Leadership in Energy & Environmental Design) ซึ่งเป็นระบบการรับรองอาคารที่ยั่งยืนและได้รับการยอมรับในระดับสากล แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่มีมายาวนานกว่าทศวรรษ นอกจากนี้องค์กรยังได้รับรางวัลต่างๆมากมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น รางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) รวมถึงการดำเนินการเรื่องการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ หรือ LCA (Life Cycle Assessment) ตลอดจนมาตรฐานสิ่งแวดล้อม EPD (Environmental Product Declaration) เพื่อเดินหน้ายกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างไทยให้เติบโตและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน