โดยกลยุทธ์ทางการรุกตลาดยิปซัม ตราช้าง  ยังคงรุกตลาดใหม่จะเน้นเจาะตลาดผ่านระบบออนไลน์เสริมความแข็งแกร่งแบรนด์ตราช้างมากขึ้น  โดยได้จ้างกลุ่มเจคอปดำเนินการศึกษาการก่อสร้างอาคารสูง  หาวิธีก่อสร้างได้อย่างประหยัดต้นทุน  เวลา  และพลังงาน  ซึ่งในการศึกษาเพื่อให้เห็นว่าเมื่อก่อสร้างอาคารไม่ใช่จะคิดเรื่องต้นทุนก่อสร้างอย่างเดียวเท่านั้น  ยังต้องคำนวณค่าใช้จ่ายอื่นควบคู่กันไปด้วย

                “ปีหน้าเข้าสู่ปีที่ 36 จึงเป็นปีที่ท้าทายเป้าหมายที่ได้รับไม่น้อยกว่าปีนี้  ดังนั้นจึงจะได้เห็นการขายรูปแบบโซลูชั่นที่จะเน้นการขายความเด่นด้านเทคโนโลยีรุกกลุ่มลูกค้าใหม่  จะได้เห็นการผลิตระบบผนังใหม่ออกมาป้อนตลาดเสริมระบบผนังภายในการกระจายสินค้าจะเข้มข้นมากขึ้น  โดยในปีหน้ายังมองปัจจัยลบในแง่เศรษฐกิจจากทั่วโลก  ราคาน้ำมันที่เกี่ยวกับต้นทุนหลักยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด”

                นอกจากนั้นยังเจาะกลุ่มสถาปนิกออกแบบ  ที่ปรึกษาและดีเวลอปเปอร์โครงการ  โดยในเดือนธันวาคมนี้ยังมีแคมเปญส่งเสริมการขยายนำเสนอช่วงโค้งสุดท้ายปี 2560 ด้วยการเปิดตัวแคมเปญหนังโฆษณาชุด “เหตุเกิดจากฝ้า... งานจบ  แต่คนไม่จบ” ตอกย้ำแนวคิดการเลือกแผ่นยิปซัมที่ต้องใส่ใจคุณภาพที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพสูง  แข็งแกร่ง  งานไว  ไม่แอ่นตัว

เปิดแนวรุกพื้นที่ใหม่ต่อเนื่อง

                หากเป็นโครงการขนาดใหญ่ยังมองว่ายิปซัม ตราช้าง  สามารถรุกตลาดได้อย่างทั่วถึงตรงข้ามกับตลาดปรับปรุงหรือรัโนเวชั่นยังค่อนข้างยากในการเจาะตลาดกลุ่มนี้ที่ยังมองว่ามีปริมาณจำนวนมาก  ดังนั้นจึงเน้นการเจาะให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของบ้านได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เจ้าของบ้านเกิดความสนใจและเข้าใจในคุณลักษณะของสินค้าได้อย่างลึกซึ้งจริงๆ

                ปัจจุบันเน้นการใช้กลยุทธ์เข้าตรงถึงกลุ่มลูกค้าผ่านระบบไอที  ควบคู่ไปกับการทำตลาดผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ในส่วนกรณีการชายผ่านดีเลอร์ของเอสซีจีนั้นยังรุกการนำเสนอผ่านสื่อหน้าร้าน  ตลอดจนโปรโมชันรูปแบบต่างๆ โดยได้วางงบประมาณการรุกตลาดในแต่ละปะกว่า 50 ล้านบาท  ยังมองมาร์เก็ตติ้งเป็นหลัก

                “ยังเชื่อว่าการลงทุนภาครัฐจะส่งผลอานิสงส์ไปอีก 2-3 ปีกว่าที่จะฟื้นตัวขึ้น  แต่ก็ยังมีความท้าทายการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  เนื่องจากภาพรวมการฟื้นตัวยังไม่ดีเช่นในอดีต  ปัจจุบันประเทศไทยยังพึ่งมหาภาคทางเศรษฐกิจใน 2 เซ็กเตอร์นั้นคือ  การท่องเที่ยวและการนำเข้า-ส่งออก  ที่ดูเหมือนว่าจะส่งสัญญาณฟื้นตัวบ้างแล้ว  เช่นเดียวกับการค้าปลีกซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้นั้นเอง”