Carbon Neutrality คืออะไร ต่างจาก Net Zero Emissions อย่างไร?

Carbon Neutrality คืออะไร แตกต่างจาก Net Zero Emissions หรือไม่

Carbon Neutrality คือ


Carbon Neutrality กับ Net Zero Emissions เป็นสองคำที่ได้ยินบ่อยในช่วงหลายปีมานี้ สองคำนี้มีความหมายไปในทิศทางเดียวกันคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ก็มีความแตกต่างกันในรายละเอียด บทความนี้จึงจะชวนมาดูว่าทั้ง Net Zero Emissions และ Carbon Neutrality คืออะไร มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ส่งผลต่อโลกของเราอย่างไรบ้าง และทำไมนานาประเทศถึงประกาศเจตนารมณ์ที่จะบรรลุเป้า Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions ให้ได้ในเร็ววัน
 

สารบัญบทความ

Carbon Neutrality คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อโลกของเรา?

Carbon Neutrality ต่างจาก Net Zero Emissions อย่างไร?

แนวทางการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality สำหรับองค์กร

สรุป Carbon Neutrality คือแนวทางช่วยรักษ์โลกอย่างยั่งยืน

Carbon Neutrality คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อโลกของเรา?

Carbon Neutrality หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน คือ การที่ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ มีค่าเท่ากับ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกดูดซับกลับคืนมาผ่าน 3 กลไก ได้แก่ “ลด” “ดูดกลับ” และ “ชดเชย”

การลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลแล้วหันไปใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น เช่น พลังงานน้ำ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่การดูดกลับสามารถทำได้โดยการปลูกป่าหรือใช้เทคโนโลยี Carbon Capture เพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วกักเก็บไว้

ส่วนการชดเชยคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbon Offset คือกลไกการซื้อขายคาร์บอนที่ช่วยให้องค์กรหรือหน่วยงานใด ๆ สามารถชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของตัวเองให้เท่ากับปริมาณการดูดซับกลับได้ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เช่น โรงงาน A ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 200 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า แต่มีความสามารถในการดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เพียง 150 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เพื่อบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality โรงงาน A แห่งนี้สามารถชดเชยการดูดซับกลับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เหลืออีก 50 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ได้ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต

Carbon Neutrality จึงส่งผลเชิงบวกอย่างมากต่อโลกเพราะสามารถช่วยลดภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change ที่ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น และช่วยปกป้องระบบนิเวศที่เปราะบาง การมุ่งสู่ Carbon Neutrality คือก้าวสำคัญที่นานาประเทศให้ความสนใจและตั้งปณิธานว่าจะบรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้ในเวลาอันรวดเร็วเพื่อช่วยโลกของเรา

Carbon Neutrality ต่างจาก Net Zero Emissions อย่างไร?

Carbon Neutrality


แม้ว่าทั้ง Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions จะมีความคล้ายคลึงกันในเป้าหมายนั่นก็คือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ทั้งสองคำนี้มีความแตกต่างในรายละเอียดสำคัญ 

Carbon Neutrality คือการมุ่งเน้นเฉพาะการลดและชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) เป็นหลัก ในขณะที่ Net Zero คือการมุ่งเน้นลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) มีเทน (CH4) ไนตรัสออกไซด์ (N2O) รวมถึงสารอื่น ๆ ที่เข้าข่าย ตลอดจนการลดการปล่อยมลพิษจากทุกภาคส่วนโดยตรง 

จะเห็นได้ว่าแนวทางของ Net Zero Emissions เป็นเป้าหมายที่กว้างและเข้มงวดกว่า จึงมักเป็นเป้าหมายในระดับประเทศ ส่วน Carbon Neutrality คือเป้าหมายเริ่มต้นสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ จึงมักถูกใช้ในหน่วยงานระดับองค์กรและโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลักเพื่อสร้างสมดุลให้กับก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในระยะยาว ซึ่งประเทศไทยของเราก็ได้ประกาศเป้าหมายสำคัญ Carbon Neutrality Thailand มุ่งสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065

แนวทางการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality สำหรับองค์กร

การบรรลุ Carbon Neutrality คือเป้าหมายที่องค์กรทุกขนาดควรให้ความสำคัญเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทุกองค์กรสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการประเมินการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการดำเนินงานทั้งหมด จากนั้นวางแผนลดคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลแล้วปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนแทน 

นอกจากนี้ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ควบคู่กับการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานทุกส่วนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแต่ใช้พลังงานน้อยลง รวมถึงมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและได้รับรองโดยองค์กรหรือหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมที่น่าเชื่อถือ สำหรับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ องค์กรสามารถชดเชยด้วยการลงทุนในโครงการปลูกป่า พลังงานสะอาด หรือซื้อคาร์บอนเครดิต 

ขณะเดียวกัน แนวคิด Green Building หรือ บ้านรักษ์โลก ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ได้เช่นกัน องค์กรสามารถเริ่มต้นได้จากการใช้วัสดุรักษ์โลกในการก่อสร้างหรือตกแต่งภายในอาคาร เช่น แผ่นยิปซัมรักษ์โลก วัสดุคอมโพสิตที่ได้จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร วัสดุที่ได้จากการรีไซเคิล รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีจัดการพลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้ วัสดุที่ได้รับรองฉลาก Carbon Footprint คืออีกหนึ่งเครื่องยืนยันถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทานที่อยู่ในเกณฑ์ตามมาตรฐานที่กำหนด

Carbon Neutrality คือแนวทางช่วยรักษ์โลกอย่างยั่งยืน

Carbon Neutrality คือแนวทางสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อลดผลกระทบต่อธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เกิดนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยลดผลกระทบต่อโลกได้มากขึ้น การมุ่งสู่ Carbon Neutrality ของทุกภาคส่วนสามารถเริ่มต้นได้จากสิ่งใกล้ตัวอย่างการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเพื่อการอุปโภคบริโภค รวมไปถึงวัสดุก่อสร้างอย่างแผ่นยิปซัมตราช้างหลากหลายรุ่นที่ได้รับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์และเป็นวัสดุ ECO-Friendly อย่างแท้จริง มั่นใจได้ถึงปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น

หาซื้อผลิตภัณฑ์ยิปซัมตราช้างที่สนใจได้ที่ร้านผู้แทนจำหน่ายเอสซีจีและร้านขายวัสดุก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ หรือค้นหาข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่

●  เว็บไซต์:  https://www.siamgypsum.com/th_th/

●  Facebook:  https://www.facebook.com/GypsumTraChangTH/